top of page

การเรียนการสอนของโรงเรียน Festallor

อัปเดตเมื่อ 3 ก.ค. 2565


หลังจากที่พี่เฟสได้ทำโพสต์ เกี่ยวกับข้อดี ข้อแตกต่างของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ

เฟสเฑอเลอร์ เอ็ดดูเคชั่น ไปแล้ว ก็ได้รับความสนใจมากเลยทีเดียว ทำให้มีนักเรียนหลายๆ

คนพาพ่อแม่ ผู้ปกครองมาสมัครถึงที่โรงเรียน จนคอร์สของเราใกล้เต็มแล้ว


แต่วันนี้พี่เฟสจะมาเพิ่มคำถามที่มีผู้ปกครองหลายท่านถามเข้ามา พี่เฟสหวังว่าโพสต์นี้

จะสามารถช่วยในการตัดสินใจในการสมัครเรียนกับโรงเรียนของเราไม่มากก็น้อย

เริ่มกันเลย


1. โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ เฟสเฑอเลอร์ เอ็ดดูเคชั่น เป็นโรงเรียนแบบไหน?

ตอบ : เราคือโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิต ที่มีหลักสูตรการเรียน

การสอนเป็นของตัวเอง 100% ซึ่งจุดประสงค์หลักของการเรียนการสอน คือ เน้นเรียนรู้ผ่าน

กิจกรรม และเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ไม่เน้นท่องจำ


โดยเราใช้เทคนิคการเรียนการสอน แบบเดียวกับการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศผู้นำ

เจ้าของภาษา ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร แคนนาดา และสหรัฐอเมริกา

_______________________________________________________________________________


2. ทำไมต้องเรียนภาษาอังกฤษเหมือนอยู่ต่างประเทศ?

ตอบ : ด้วยประสบการณ์ทางด้านการศึกษามากกว่า 10 ปี ทำให้เราได้เห็นความ

แตกต่างของการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของต่างประเทศ กับในประเทศไทย จึงได้รู้ว่า

การเรียนแบบไหนมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งเราได้เห็นผลลัพธ์จากความสำเร็จของนักเรียน

ที่ไปเรียนในต่างประเทศมามากมาย ล้วนมีความแตกต่างอย่างชัดเจนของพัฒนาการ ก่อน

เรียนและหลังเรียน


อีกทั้งบุคลากรครูผู้สอนของเรา ล้วนมีประสบการณ์ที่เต็มเปลี่ยม เรามีครูผู้สอนที่จบวุฒ

ครูจากประเทศเหล่านั้นโดยตรง และยังเป็นครูที่สอนในโรงเรียนของประเทศเหล่านั้นด้วย

เราจึงได้นำมาพัฒนาเป็นหลักสูตรที่เป็นเอกสิทธ์เฉพาะของโรงเรียน และปรับให้เหมาะกับ

คนไทยมากที่สุด โดยคุณภาพต้องเป็นมาตรฐานสากล และราคาต้องเป็นคนไทย!


ดังนั้นวิธีที่โรงเรียนของเราใช้สอน รวมถึงหนังสือ เนื้อหา ล้วนมาจากประเทศเหล่านั้น

ทั้งสิ้น นักเรียนที่เรียนที่นี่จึงจะเหมือนได้ไปเรียนภาษาอังฤษในต่างประเทศ และจะมีการ

ท่องเที่ยวทุก 1-2 เดือนในการไปเรียนรู้ฝึกทักษะภาษาอังกฤษจากประสบการณ์จริง ในสถาน

ที่ต่างๆ


_______________________________________________________________________________


3. สอนแบบไหน?

ตอบ : การเรียนการสอนของเราจะแบ่งเป็น ภาคทฤษฎี 40% และภาคปฎิบัติ 60%

โดยสอนตามเนื้อหาหนังสือเรียนในแต่ละระดับ โดย 1 ระดับ จะใช้หนังสือเรียน 2 เล่ม

ซึ่งเป็นเล่มเดียวกับที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในประเทศผู้นำเจ้าของภาษาใช้


โดยเฉพาะ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เพราะเราใช้ระบบการแบ่งระดับการเรียน

การสอนอ้างอิงจาก The Common European Framework of Reference for Languages

(CEFR) ของระบบประเทศออสเตรเลีย (หน่วยงาน English Australia) และนิวซีแลนด์ (หน่วย

งาน New Zealand Language Center) เป็นหลัก


โดยการจัดการเรียนการสอนจะมีการสร้างสถานการณ์ต่างๆ จำลองเป็นเหตุการจริง

ในหัวข้อที่เรียนในแต่ละวัน ดังนั้นผู้เรียนจะได้สนทนาจริงๆ และได้ลงมือปฎิบัติจริง รวมถึง

จะได้ออกไปเรียนรู้จากสถานการณ์จริง ตามข้อ 2. ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

_______________________________________________________________________________



4. เรียนกี่คน?

ตอบ : การเรียนการสอนของเราจะเน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม ดังนั้นจะมีการแบ่งสนทนา

เป็นคู่ และเป็นกลุ่ม ในแต่ละชั้นเรียนจึงต้องมีผู้เรียนอย่างน้อย 10-20 คนต่อชั้น และทุกๆ

คนในชั้นเรียนต้องได้พูด และแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้

ภาษาอังกฤษ ไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพในด้านอื่นๆร่วมด้วย อันได้แก่ การฝึกทักษะ

การกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และเมื่อเจอชาวต่างชาติแล้วสามารถโต้ตอบได้ทันที


ซึ่งมาตรฐานการเรียนแบบนี้ คือมาตรฐานการเรียนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

เหมือนการเรียนการสอนในประเทศผู้นำเจ้าของภาษา ที่มีกฎว่า นักเรียนในห้องต้อง

เหมาะสม เพียงพอต่อครูผู้สอน และครูผู้สอนต้องสามารถดูแลนักเรียนได้ครบทุกคน

แล้วนักเรียนทุกคนต้องมีโอกาสได้พูดในชั้นเรียน


ดังนั้นหากคุณกังวลว่านักเรียนที่เข้ามาเรียนที่นี่จะได้แค่นั่งฟังเฉยๆ แล้วหมดเวลา

สอนไปโดยไม่ได้พูด ให้ลืมไปได้เลย! และนี่ก็เป็นอีก 1 เหตุผลของการเรียนการสอน

ของเราที่ต้องใช้เวลาในการเรียนแต่ละครั้งอย่างเพียงพอ คือ 2 ชั่วโมงครึ่ง - 5 ชั่วโมง

ซึ่งประเทศผู้นำเจ้าของภาษาก็ล้วนใช้เวลาประมาณนี้ทั้งสิ้น


_______________________________________________________________________________


5. การเรียนการสอนที่นี่เน้นเรื่องอะไร?

ตอบ : การเรียนการสอนของเรามีเป้าหมายหลักคือ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุ

ศักยภาพสูงสุด ทั้ง 4 ทักษะ แบ่งเป็น การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ผ่านกระบวน

การเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและสาระอื่นๆ (a cross-cultural and cross-curricular approach)

โดยทุกครั้งที่เรียนจะมีการแบ่งเนื้อหาทำการสอนออกเป็น 4 โครงสร้าง ตามเนื้อหาที่สอดคล้องกัน

อันได้แก่

1. การพูด และการฟัง (Speaking and Listening)

2. การอ่าน และการเขียน (Reading and Writing)

3. การฝึกฝนและปฎิบัติ (Practicing)

4. กิจกรรมฝึกหัด (Exercising Activities)


โดยเราเน้นการสามารถนำไปใช้ได้จริง เรียนที่นี่ต้องไม่ใช้แค่รู้ภาษาอังกฤษ แต่ต้อง

สามารถคุยกับชาวต่างชาติรู้เรื่อง ดังนั้นเรื่องสำเนียงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อีกทั้งต้องมีความ

มั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ


และเมื่อจบหลักสูตร ผู้เรียนสามารถสมัครไปเรียนต่อในระดับ Academic ได้ เช่นการสอบเข้า

ต่างๆ หรือการสอบ Ielts band 4-7 ได้

_______________________________________________________________________________


6. ใช้เวลาเรียนเยอะแบบนี้ ผู้เรียนจะรับได้ไหม และผลลัพธ์เป็นอย่างไร?

ตอบ : เราใช้วิธีการเรียนการสอนแบบนี้มาจาก การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ

ในประเทศผู้นำเจ้าของภาษา ซึ่งแน่นอนว่ามันถูกวิจัยมาแล้วว่ามีประสิทธภาพ

มากที่สุด ทั้งเรื่องเวลาที่เพียงพอ และจำนวนผู้เรียนในชั้นเรียน จึงเป็นวิธีการ

เรียนการสอนที่ทั่วโลกต่างยอมรับ


และเหตุนี้แหละ ประเทศเหล่านั้นจึงดึงดูดนักเรียนต่างชาติทั่วโลกให้สมัคร

เข้าไปเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยเพียงไม่กี่เดือนนักเรียนเหล่านั้นก็สามารถพูดได้จริง

และมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ


ซึ่งตอนนี้ในประเทศเราเองก็ได้มีการออกมาพูดถึงระยะเวลาการเรียนการสอน

ภาษาอังกฤษในโรงเรียน ว่าเวลาเรียนภาษาอังกฤษน้อยเกินไป เพราะ บางทีพบว่า

เราเรียนภาษาอังกฤษกันเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น ทำให้การเรียนการสอน

ของในบ้านเราหลายที่ไม่มีประสิทธิผล อีกทั้งผู้เรียนยังไม่มีโอกาสได้แสดงออกอย่าง

จริงจังในชั้นเรียน ทำให้ไม่มีความกล้าในการพูดภาษาอังกฤษ จนบางที่กว่าจะรู้ตัว

ก็พบว่าคนไทยที่จบปริญาตรี มาแล้วยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธภาพ

_______________________________________________________________________________


7. แล้วผู้เรียนจะได้พักไหม?

ตอบ : เรามีการแบ่งเวลาพักออกเป็น พักย่อย และพักใหญ่ อย่างเพียงพอ เพราะเราอ้างอิง

จากการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศผู้นำเข้าของภาษาตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น


8. แล้วจะน่าเบื่อไหม?

ตอบ : ด้วยวิธีการเรียนการสอนที่สนุก เข้าใจง่าย แน้นการปฎิบัติ ทำให้นักเรียนได้ฝึกฝน

ตลอดเวลา การเรียนการสอนจึงไม่น่าเบื่อ แต่ตรงกันข้าม นักเรียนจะรู้สึกรักภาษาอังกฤษ

มากขึ้น รู้สึกอยากเรียนมากขึ้น เพราะสนุกมากกว่าการคิดจะว่า ตอนนี้กำลังถูกบังคับให้เรียน

เพราะวิธีการเรียนการสอน จะมีช่วงการผ่อนคลายต่างๆ เช่น การร้องเพลง ดูหนัง เล่นเกมส์

แต่ออกมาในรูปแบบของการเรียนภาษาอังกฤษ


_______________________________________________________________________________


9. ครูผู้สอนเป็นยังไง?

ตอบ : ครูผู้สอนของเราเป็นคนไทย ที่จบมาจากประเทศเจ้าของภาษาโดยตรง และครู

ที่สอนอยู่ในต่างประเทศ โดยครูของเราจะต้องผ่านการเรียนเป็น Educator ของประเทศ

ผู้นำเจ้าของภาษา และต้องเคยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเหล่านั้นจริงๆ คือต้องมีทั้งประสบการณ์

และความรู้ความเชี่ยวชาญจริง เพราะในประเทศเหล่านั้น ครูทุกคนจะไม่ใช่แค่ "สอนได้"

เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความเป็น "นักจิตวิทยา" สำหรับเด็กร่วมด้วย เพื่อเข้าใจถึงธรรมชาติ

ของผู้เรียน และรู้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นของนักเรียนแต่ละคน โดยครูต้องสามารถเป็นทั้งผู้สอน

เป็นที่ปรึกษา และสามารถเป็นผู้ปกครองของเด็กได้


_______________________________________________________________________________


และด้วยเหตุผลเหล่านี้ โรงเรียนของเราจึงกล้าการันตีความสำเร็จที่แตกต่าง

และเรายังได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษา Top 100 ของโลก ที่จะเข้ามา

เพิ่มในเนื้อหาการเรียนการสอน และเมื่อผู้เรียน เรียนจบหลักสูตรสามารถได้รับ

ประกาศนียบัตร 2 ใบ จากโรงเรียนของเรา และจากสถาบันการศึกษาระดับโลก

ที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต และหากผู้เรียนต้องการเรียนต่อระดับที่สูงขึ้น

กับสถาบันการศึกษาจากต่างประเทศ ยังสามารถ Pathway เข้าไปได้โดย

ไม่ต้องใช้ผลสอบภาษาอังกฤษ (เรียนออนไลน์ ผ่านทาง Festallor Education)


สมัครเลย

📞 Tel : 088-555-2166 ☎ Tel : 054-059-784

📲 Line : @festallor (มีแอด)


━━━━━━━━



bottom of page